“รู้หรือไม่” คำว่า Hylobates เป็นภาษากรีก แปลว่า นักเดินป่า ชะนีธรรมดาจัดเป็นวานรขนาดเล็ก (Lesser Apes) ไม่มีหาง รูปร่างเพรียว ใบหน้าแบน ช่วงอกกว้าง มีแขนที่ยาวมากเมื่อเทียบกับขาที่ค่อนข้างสั้น ชะนีธรรมดาเป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิตบนชั้นเรือนยอดไม้ (เคลื่อนที่ หาอาหาร และมีกิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ) ชะนีธรรมดาจะอยู่เป็นครอบครัวเล็ก ๆ เฉลี่ยครอบครัวละ 4 ตัว มากสุดไม่เกิน 7 ตัว และมีอาณาเขตเฉพาะเป็นของตนเอง ชะนีธรรมดามีขนหลายสี เช่น สีขาวครีม สีน้ำตาลเข้ม และสีดำ ซึ่งลักษณะสีของขนไม่เกี่ยวกับอายุหรือเพศ ใบหน้าไม่มีขน มีสีขาวบริเวณรอบวงหน้า มือ และตีน ชะนีธรรมดามีแผ่นรองนั่ง (Callosities) มีลักษณะเป็นแผ่นหนังกลม ๆ ขนาดฝ่ามือของชะนี อยู่ระหว่างอวัยวะเพศ ไว้ใช้สำหรับนั่ง
พบในทวีปเอเชีย ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (สุมาตรา), สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, มาเลเซีย (คาบสมุทรมาเลเซีย), สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และราชอาณาจักรไทย บริเวณป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าพรุ ชะนีธรรมดามีพื้นที่อาศัย (Home range sizes) ประมาณ 275–337.5 ไร่ ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ต่ำกว่า 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล
เป็นสัตว์กินพืช อาหารหลัก คือ ผลไม้สุกเป็นส่วนใหญ่ (66%) เช่น ไกร ไทรผู้ดี เดื่อใบหว้า มะหลอด ตีนตั่ง เงาะป่า มังคุดป่า และกระท้อนป่า ดอกไม้ (1.3%) เช่น ยางเสียน ยอดอ่อนเถาวัลย์ (1%) ใบอ่อน (24%) แมลง (9%) ไข่นก กินผลไม้มากในช่วงเช้าและเย็น กินใบไม้และแมลงมากขึ้นในตอนกลางวัน กินน้ำโดยใช้วิธีการใช้มือจุ่มลงไปในน้ำตามโพรงไม้ แล้วเลียจากมือ
ชะนีธรรมดาใช้เวลาในการพักผ่อน (Resting) (26%) การหาอาหาร (33%) การเดินทาง (24%) มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม (11%) เช่น การดูแลเอาใจใส่ (Grooming) การเล่นมวยปล้ำ, การไล่จับกัน, การตีและกัด) การดูแลตัวเอง (Grooming) (5%) การร้อง (4%) การปกป้องอาณาเขต (2%) ชะนีธรรมดาประกาศอาณาเขตด้วยการร้องเสียงดัง โดยตัวเมียจะเริ่มร้อง (Female Great Call) และตัวผู้จะร้องรับ ในช่วงกลางเป็นเสียงที่สั้นกว่า และต่อเนื่องไปกับเสียงร้องของตัวเมีย การร้องของทั้งตัวเมียและตัวผู้นี้รวมเรียกว่า การร้องคู่ (Vocal duet) บางครั้งจะได้ยินเสียงร้องของตัวผู้ตัวเดียว (Male solos) ส่วนใหญ่จะร้องตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึงสาย ๆ ประมาณ 11 นาที ถึงเวลาประมาณ 10.00–11.00 น. เสียงร้องดังไกลประมาณ 2 กิโลเมตร ชะนีธรรมดาเคลื่อนที่โดยโหนจากกิ่งหนึ่งไปอีกกิ่งหนึ่ง ซึ่งการโหนหรือการกระโจนอาจไกลถึง 9 เมตรหรือมากกว่า ด้วยความเร็วประมาณ 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในการหากินใน 1 วัน ชะนีธรรมดาเดินทางเป็นระยะทางเฉลี่ย 1,400 เมตร เมื่ออยู่บนพื้น ชะนีธรรมดาจะชูแขนขึ้นเหนือศีรษะเพื่อทรงตัว ชะนีธรรมดาไม่สร้างที่นอน แต่จะเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมและปลอดภัย ซึ่งมักอยู่ห่างจากต้นไม้ที่เป็นอาหารต้นสุดท้าย เพราะต้องการหลีกเลี่ยงผู้ล่าและสัตว์หากินตอนกลางคืนซึ่งอาจเข้ามารบกวนขณะพักผ่อน ชะนีธรรมดานอนด้วยการนั่งพิงหลังกับลำต้นต้นไม้ใหญ่แล้วใช้มือจับกิ่งไม้ใกล้เคียงไว้ หรือเอียงตัวตะแคงบนกิ่งไม้ที่มั่นคง แล้วเอามือจับกิ่งไม้อีกกิ่ง ส่วนใหญ่ชะนีธรรมดามักอยู่บนต้นไม้ที่ใช้นอนก่อนที่ฟ้าจะมืด เวลาประมาณ 15.00–16.00 น.
1. เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 2. เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในสถานภาพมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (Vulnerable: VU) จากการประเมินสถานภาพชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคามของประเทศไทย สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (2024) 3. เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ (Endangered: EN) จากการประเมินสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต โดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature: IUCN) หรือ IUCN Red List (2020) 4. เป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าในบัญชีหมายเลข 1 ที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาด เนื่องจากใกล้จะสูญพันธุ์ ยกเว้นเพื่อการศึกษา วิจัยและเพาะพันธุ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้าเสียก่อน ประเทศส่งออกจึงจะออกใบอนุญาตส่งออกให้ได้ โดยจะต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้น ๆ ด้วย ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora: CITES)
CLASS : Mammalia
ORDER : Primates
FAMILY : Hylobatidae
GENUS : Hylobates
SPECIES : Lar Gibbon (Hylobates lar)
อายุขัยประมาณ 30–40 ปี
ไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอน คลอดลูกช่วงเดือนกันยายน ถึง เดือนตุลาคม ชะนีธรรมดามีระบบการผสมพันธุ์ เป็นแบบผัวเดียวเมียเดียว และรวมตัวกันเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก วงรอบการเป็นสัดของตัวเมียเฉลี่ยประมาณ 27–30 วัน โดยมีประจำเดือนประมาณ 4–5 วัน ตัวเมียถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 8–10 ปี และตัวผู้ถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่อประมาณ 8–12 ปี ตั้งท้องประมาณ 7 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ทุก ๆ 3 ถึง 5 ปี เมื่อลูกชะนีอายุได้ 1 ปี จะเริ่มออกจากอกแม่ห้อยโหนไปมาด้วยตัวเอง ลูกชะนีธรรมดาส่วนใหญ่จะหย่านมเมื่ออายุระหว่าง 1–2 ปี ลูกจะอยู่กับแม่จนถึงอายุประมาณ 2 ปี เมื่อลูกอายุได้ 2–3 ปี แม่ชะนีธรรมดาจะเริ่มผสมพันธุ์อีกครั้ง ลูกชะนีธรรมดาตัวผู้จะถูกขับออกจากฝูงเร็วกว่าตัวเมีย และจะอยู่ตามลำพังจนกระทั่งหาคู่ผสมพันธุ์ได้ ชะนีธรรมดาในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีการผสมข้ามพันธุ์กับชะนีมงกุฎ จนเกิดเป็นชะนีลูกผสมซึ่งมีลักษณะรูปร่างที่แตกต่างออกไป รวมถึงเสียงร้องด้วย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นับเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลก ที่มีชะนีทั้ง 2 ชนิดนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ชะนีธรรมดาตัวผู้หนักประมาณ 5.0–7.6 กิโลกรัม ความยาวลำตัว ประมาณ 43.5–58.5 เซนติเมตร ตัวเมียหนักประมาณ 4.4–6.8 กิโลกรัม ความยาวลำตัว ประมาณ 42.0–58.0 เซนติเมตร มีฟันเขี้ยวยาว (สูตรฟันคือ 2.12.3/2.1.2.3)
แก้ไขข้อมูล ณ วันที่ 11 เมษายน 2560