นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีการเลี้ยงช้างมากที่สุดทำให้คนกับช้างมีความผูกพันกันเสมือนหนึ่งเป็นครอบครัวเดียวกันการจัดโครงการปลูกป่าเพื่อช้างและสิ่งแวดล้อมล้อม จึงถือว่าเป็นกิจกรรมดีๆ เพื่อช้าง เพื่อคน เพื่อสิ่งแวดล้อมอีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมตามวิถีของชุมชนชาวกูยและชุนชนบริเวณโดยรอบให้มีส่วนร่วมในการรักษ์ป่าต่อไป

          นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมปลูกป่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ดำเนินโครงการปลูกป่าร่วมกับหน่วยงานต่างๆมาตั้งแต่ปี 2537 มาจนถึงปัจจุบัน รวมพื้นที่ปลูกป่าทั่วประเทศกว่า 4 แสนไร่ โดยในส่วนขององค์การสวนสัตว์ กฟผ. ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณปลูกและบำรุงรักษา โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปี 2560 บนพื้นที่ 300 ไร่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าดงภูดิน ซึ่งการสนับสนุนการจัดกิจกรรมดังกล่าวอยู่ในแผน CSR (Corpirate Social Responsibility : CSR)ของ กฟผ.อยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของการปลูกป่าถาวร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน

          ทางด้าน นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ กล่าวว่า โครงการปลูกป่าเพื่อช้างและสิ่งแวดล้อม ภายในโครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์หรือ โครงการช้างคืนถิ่นมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างอย่างยั่งยืน แก้ปัญหาช้างเร่ร่อนในเมืองหลวง (กรุงเทพฯและปริมณฑล) และ พัฒนาคุณภาพชีวิตและดูแลสวัสดิภาพช้างซึ่งถือเป็นโครงการที่น้อมนำแนวพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงรับสั่งให้องค์การสวนสัตว์ดูแลและอนุรักษ์ช้างพันธุ์ไทย เนื่องจากช้างถือเป็นสัญลักษณ์ของชาติควรได้รับความคุ้มครองให้มีชีวิตที่ดีขึ้น